ชวนทำ ขนมไทย เมนูสุดฮิต ขนม หม้อแกง หวานมัน เนื้อเนียน ทานแล้วติดใจ ติดใจไม่รู้ลืม แถมแจกสูตรสำหรับคนรักสุขภาพด้วย
เมนูสุดฮิต ขนม หม้อแกง เนื้อเนียน หวานมัน ทานแล้วติดใจ
ถ้านึกถึงขนมที่มักจะมากับถาดทรงสี่เหลี่ยม มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว และโรยหน้าด้วยหอมเจียว ก็คงต้องนึกถึงขนมหม้อแกงอย่างแน่นอน เมนูของหวานแบบไทย ๆ ที่น่าจะเป็นที่ชื่นชอบของหลายคนเลยทีเดียว ด้วยความเนียน ละมุน ของเนื้อขนม พร้อมทั้งกลิ่นของหอมเจียวที่เข้ากับขนมชนิดนี้ได้อย่างลงตัว จึงทำให้รับประทานกี่ครั้งก็ยังติดใจไม่รู้ลืม หากคุณกำลังต้องการทำขนม หม้อแกง เพื่อรับประทานเองที่บ้าน บทความนี้เรามาแนะนำสูตรขนม พร้อมกับวิธีการทำเมนูนี้ให้อย่างละเอียด ไปเข้าครัวทำตามกันได้เลย
ขนมหม้อแกง ยุคสมัยกับที่มาของขนมไทย คู่บ้านคู่เมือง
ก่อนที่ หม้อแกง จะโด่งดังจนเป็นที่รู้จักกันแพร่หลายอย่างในปัจจุบันนี้ เคยเป็นขนมที่เฉพาะชนชั้นสูงเท่านั้นจะได้รับประทาน เรียกได้ว่าเป็นของหวานในวัง จากนั้นมีการถ่ายทอดให้กับคนไทยในภายหลัง แล้วสืบทอดเรื่อยมาจากยุคสู่ยุค จากรุ่นสู่รุ่น ทำให้ ขนม โบราณ ชนิดนี้ ยังคงมีปรากฏให้เห็นอยู่จนถึงปัจจุบันนั่นเอง หลังจากที่ได้รู้ที่มาของขนมนี้กันเรียบร้อยแล้ว นับว่ามีการส่งต่อวัฒนธรรมอาหารมาอย่างยาวนานเลยทีเดียว ดังนั้น หากทำและรับประทาน ขนมหม้อแกง ก็จะช่วยทำให้สิ่งเหล่านี้ยังคงอยู่คู่บ้านเมืองต่อไปได้อีกด้วย
ชวนมารู้จัก ขนมหม้อแกง ให้มากขึ้น ด้วยความหมายอันเป็นมงคล
คุณทราบหรือไม่ว่า นอกจากหม้อแกงจะเคยเป็นที่นิยมในวัง ก็ยังมีความหมายเฉพาะตัวอีกด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งประเภทของขนมมงคลเลยทีเดียว ซึ่งความหมายของ ขนมหม้อแกง นั้นก็คือ ให้มีกินมีใช้ มีชีวิตที่อุดมสมบูรณ์ โดยนิยมนำไปประกอบกับ ขนมไทย มงคลชนิดอื่น ๆ เช่น ทองหยอด ทองเอก จ่ามงกุฎ เป็นต้น เพื่อจัดขันหมากสำหรับใช้ในการสู่ขอเจ้าสาวก่อนที่จะแต่งงานนั่นเอง รู้จักกับเมนูที่น่ารับประทานแบบนี้กันพอสมควร ก็ได้เวลามาดูสูตรและขั้นตอนการทำขนม หม้อแกงกันแล้ว
วัตถุดิบสำหรับการทำ สูตรหม้อแกงโบราณ
- ไข่ไก่ 5 ฟอง
- หัวกะทิ 250 มิลลิลิตร
- เกลือป่น ¼ ช้อนชา
- น้ำตาลปี๊บ 150 กรัม
- แป้งข้าวเจ้า 15 กรัม
- หอมแดงซอย ½ ถ้วยตวง
- น้ำมันพืชสำหรับทอด
- ใบเตย (เพื่อเพิ่มกลิ่นหอมให้กับขนม)
* ผ้าขาวบาง (สำหรับกรองเนื้อขนมให้เนียน)
วิธีการทำเมนู ขนม ไทย ง่ายๆ
- นำส่วนผสมทั้งหมดมาคลุกเคล้าให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน อาจใส่ใบเตยลงไปด้วยเพื่อให้มีกลิ่นหอมก็ได้ แล้วนำผ้าขาวบางมากรองเนื้อขนม เพื่อให้มีเนื้อที่เนียนละเอียดมายิ่งขึ้น
- จากนั้นนำขนมใส่ลงในถาด เตรียมอบเตรียมอุ่นเตาอบ แล้วนำขนมเข้าอบที่อุณหภูมิ 180 องศา หรือหากจะอบด้วยเตาถ่านก็ได้
- เพื่อให้กลิ่นหอมยิ่งขึ้น แต่จะต้องอบทั้งไฟบนและไฟล่าง โดยหาภาชนะที่ทนไฟมาครอบ แล้วนำเอาถ่านที่ผ่านความร้อนแล้วมาวางเรียงกันด้านบน
- เตรียมกระทะ ใส่น้ำมันลงไป รอสักพักให้น้ำมันเริ่มร้อน นำหอมแดงที่ซอยเตรียมไว้แล้วมาเจียวให้เป็นสีสวย เมื่อขนมสุกได้ที่ ก็นำออกมาจากเตา โรยหอมเจียวที่เตรียมไว้ ก็จะได้ ขนมไทย ทำเอง พร้อมเสิร์ฟแล้ว
วัตถุดิบสำหรับการทำ สูตร ขนม ไทย แบบไม่ต้องง้อเตาถ่าน
- เผือกนึ่ง 1 กิโลกรัม
- แป้งท้าวยายม่อม 1 ขีด
- แป้งข้าวเจ้า 1 ขีด
- ไข่เป็ด 7 ฟอง
- น้ำตาลโตนด 1 กิโลกรัม
- กะทิ 1 กิโลกรัม
วิธีทำ หม้อแกง แบบ นึ่ง
- ขั้นตอนแรกคือให้ผสมไข่เป็ดทั้งหมดให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นใส่น้ำตาลโตนดลงไป ผสมให้เข้ากันอีกครั้ง
- นำเนื้อเผือกที่นึ่งแล้วมาบดให้ละเอียด ก่อนนำลงใส่ชามส่วนผสมที่เตรียมไว้ทั้งหมด คลุกเคล้าให้เป็นเนื้อเดียวกัน
- นำส่วนผสมของแป้งทั้งหมด คือ แป้งท้าวยายม่อมและแป้งข้าวเจ้า ใส่ลงไป คนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง ใส่น้ำกะทิลงไปเป็นขั้นตอนท้ายสุด หากคั้นกะทิเอง ให้นำเอาหัวกะทิที่ได้มาใช้เป็นส่วนผสม
- นำลงใส่ถาดหรือภาชนะทนไฟ จากนั้นตั้งหม้อ รอจนน้ำเดือด นำขนมลงไปนึ่งจนสุก เท่านี้ก็ได้ ขนมไทย โบราณ พร้อมเสิร์ฟกันแล้ว
เคล็ดลับทำ ขนม หม้อแกง ยังไงให้ได้รสกลมกล่อม
สำหรับคนที่เพิ่งทำขนมครั้งแรกและคนที่กำลังที่สนใจจะทำ ขนม ไทย ทำ ง่าย เมนูนี้ เรามีเคล็ดลับที่จะช่วยให้ขนมนั้นเอร็ดอร่อยมากยิ่งขึ้น ก็คือการเลือกใช้น้ำตาลให้เหมาะสม จะได้รสหวานที่ไม่โดดมากจนเกินไป โดยใช้น้ำตาลโตนดหรือน้ำตาลปี๊บมากกว่าน้ำตาลทราย นอกจากนี้การนำไปย่างบนเตาถ่าน อย่างที่คนโบราณนิยม จะทำให้ขนมหอมอบอวลมากยิ่งขึ้นด้วย และหากต้องการให้เนื้อขนมละเอียด ก็ควรนำผ้าขาวบางมากรอง เท่านี้ก็จะได้ ขนม หม้อแกง ที่เนียนนุ่ม น่ารับประทานแล้ว
ขนมหม้อแกง ทำง่าย อร่อยเด็ด แถมยังได้สุขภาพดี
นอกจากการทำขนมในแบบฉบับดั้งเดิม ตามที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว สำหรับสาว ๆ ที่รักการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ เราก็จะมาแนะนำเคล็ดลับในการดัดแปลงเมนู หม้อแกง ทำเอง ให้ดีต่อสุขภาพมากยิ่งขึ้นด้วย เพียงแค่ลดส่วนประกอบของแป้งและน้ำตาล หรือจะไม่ใช้ทั้งแป้งและน้ำตาลเลยก็ย่อมทำได้ อาจจะเพิ่มส่วนประกอบที่มีความหวานจากธรรมชาติลงไป เช่น ฟักทอง มันม่วง เป็นต้น เท่านี้ก็จะอิ่มอร่อยกับขนมหม้อแกง ของหวานสไตล์ไทย ๆ ได้อย่างสบายใจแล้ว
อ่านบทความอื่นๆ:
