Home

ลาบ เหนือ

สำหรับใครที่เป็นชาวล้านนาแท้ เชื่อว่าหนึ่งในเมนูอาหารที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเอกลักษณ์ประจำเมืองล้านนาเลยนั่นก็คือเมนูลาบ โดยเมนูนี้เหมือนเป็นการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมอีสานเข้ากับวัฒนธรรมของชาวล้านนา ทำให้รสชาติที่ได้ออกมานั้นมีความพิเศษและยังได้กลิ่นสมุนไพรที่เข้มข้นถึงใจไม่แพ้เมนูอาหารภาคอื่นเลย วันนี้เราจึงจะมาพาไปทำความรู้จักกับ ลาบ เหนือ พร้อมแจกสูตรเด็ด ทำง่าย ๆ ด้วยตนเองที่บ้าน รับประกันเลยว่ารสขาติอร่อยเสมือนไปนั่งทานในร้านอาหารกันเลย

แจกสูตรการทำ ลาบ เหนือ ให้อร่อยแซ่บ จนคนรอบข้างต้องตะลึง

ลาบ เหนือ

เมื่อเข้าสู่ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เชื่อว่าต้องมีคนไม่น้อยเลยที่กำลังมองหาอาหารอร่อย ๆ ทำทานกันอยู่ที่บ้าน แต่ถ้าจะให้ทานอาหารรสชาติจืด ๆ ก็อาจจะไม่ได้อรรถรสในการทานสักเท่าไหร่ ในวันนี้เราจึงได้ทำการรวบรวมเมนู อาหารเหนืออร่อยๆ อย่าง ลาบเหนือ มาให้ทุกคนได้ลองไปทำตามกันดู ว่าแต่วิธีการทำเมนูนี้จะมีความยากง่ายแค่ไหน ตามไปดูกันเลยดีกว่า

เคล็ด(ไม่)ลับการทำ ลาบเหนือ เมนูสุดแซ่บที่แค่ได้กลิ่นก็หอมฟินถึงใจ

ลาบ เหนือ

เวลาใครถามว่า เมนูอาหารเหนือ มีอะไรอร่อยบ้าง เชื่อว่าต้องมีใครหลาย ๆ คนในที่นี้ที่คิดถึง ลาบ คั่ว เหนือ หรือเมนู ลาบ หมู เหนือ กันอยู่แน่นอน เพราะด้วยรสชาติและวิธีการทำของเมนู ลาบ เหนือ นั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิดเลย แถมวัตถุดิบที่ใช้ในการทำเมนูนี้ก็มีเพียงไม่กี่อย่างเท่านั้น สำหรับใครที่อยากรู้กันแล้วว่า ลาบเหนือ ใส่อะไรบ้าง วันนี้เราก็ได้รวบรวมวัตถุดิบและวิธีการทำ มาแบ่งปันทุกคนกันแล้ว

ลาบ เหนือ

วัตถุดิบสำหรับการทำ สูตร พริก ลาบเหนือ

  1. พริกขี้หนูแห้ง 50 กรัม
  2. หอมแดง 3 หัว
  3. กระเทียม 10 กลีบ
  4. เกลือ 2 ช้อนชา
  5. ข่าแก่ซอย 2 ช้อนโต๊ะ
  6. ตะไคร้ซอย 3 ช้อนโต๊ะ
  7. เม็ดผักชี 2 ช้อนโต๊ะ
  8. มะแขว่น 2 ช้อนโต๊ะ
  9. มะแหลบ 2 ช้อนโต๊ะ
  10. ดีปลี 2 ช้อนโต๊ะ
  11. พริกไทยเม็ด 2 ช้อนโต๊ะ

วิธี ทํา พริก ลาบเหนือ ให้อร่อย ลำแต้ๆ

ลาบ เหนือ
  1. ตั้งกระทะโดยใช้ไฟกลาง จากนั้นใส่พริกขี้หนูแห้งลงไปในกระทะแล้วคั่วให้พอได้กลิ่นหอม จากนั้นใส่กระเทียม หอมแดงตามลงไป แล้วคั่วส่วนผสมให้เข้ากันประมาณ 5 นาที 
  2. เมื่อพริกเริ่มมีกลิ่นหอมได้ที่แล้วให้ใส่ข่า ตะไคร้ มะแขว่น มะแหลบ พริกไทย ดีปลีและเม็ดผักชีตามลงไป จากนั้นคั่วต่ออีกประมาณ 2 นาที แล้วปิดไฟได้เลย
  3. ต่อมาให้นำเกลือและพริกที่เตรียมไว้เมื่อครู่มาโขลกให้เป็นเนื้อเนียนละเอียด แล้วตักใส่ภาชนะหรือนำไปใช้ประกอบอาหารได้เลย

วัตถุดิบสำหรับการทำลาบภาคเหนือ

  1. เนื้อหมู 500 กรัม
  2. หนังหมู 200 กรัม
  3. ไส้หมู 150 กรัม
  4. ตับหมู 150 กรัม
  5. เลือดหมูสด 120 มิลลิลิตร
  6. ผักแพ้ว ½ ถ้วยตวง
  7. พริกลาบเหนือ 200 มิลลิลิตร
  8. ต้นหอม 6 ต้น
  9. ผักชี 4 ต้น
  10. กระเทียมเจียว 4 ช้อนโต๊ะ
  11. พริกป่น ½ ถ้วยตวง
  12. หอมเจียว 2 ช้อนโต๊ะ
  13. พริกแห้ง 2 ช้อนโต๊ะ
  14. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  15. น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ
  16. ผงปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำลาบภาคเหนือ

ลาบ เหนือ
  1. ขั้นตอนแรกสำหรับการทำ เมนูอาหารไทย ประจำภาคเหนือ ให้เรานำเนื้อหมูและเลือดหมูสดที่เตรียมไว้มาผสมให้เข้ากัน จากนั้นตั้งกระทะด้วยไฟกระทะด้วยไฟกลาง 
  2. ใส่มันหมูที่เตรียมไว้ลงไปทอดในกระทะแล้ว พร้อมกับใส่น้ำเปล่าตามลงไปเพียงเล็กน้อย จากนั้นผัดมันหมูให้มีสีเหลืองกรอบ
  3. เมื่อมันหมูเริ่มมีสีเหลืองกรอบแล้วให้ใส่พริกลาบคั่วที่เตรียมไว้ตามลงไป แล้วค่อย ๆ หรี่ไฟให้อ่อนลง จากนั้นคั่วมันหมูและพริกลาบคั่วให้เข้ากัน
  4. ใส่เครื่องในหมูและหมูที่ผสมไว้ในขั้นตอนแรกตามลงไป แล้วปรุงรสชาติให้เข้มข้นด้วยน้ำปลา ผงปรุงรส พริกป่น และน้ำตาลทราย พร้อมกับคลุกเคล้าส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากันจนกว่าเนื้อจะสุกได้ที่
  5. เมื่อทุกอย่างเข้ากันดีแล้ว ให้ใส่ผักแพ้ว ต้นหอม และผักชีตามลงไป แล้วผัดส่วนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง จากนั้นปิดไฟแล้วโรยกระเทียมเจียว หอมเจียว และพริกแห้งตามลงไป ก็พร้อมจัดเสิร์ฟลงจานได้เลย

เคล็ดลับการทำลาบ เหนือ อร่อย ๆ เหมือนต้นตำหรับ

ลาบ เหนือ

เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้กันแล้ว เชื่อว่าต้องมีคนไม่น้อยเลยที่อยากจะได้วิธีการทำ อาหารไทยง่ายๆ แน่นอนว่าเมนูอาหารอย่างลาบ เหนือ ที่เราได้แนะนำทุกคนกันไปวันนี้ เป็นวิธีที่ทำตามได้ไม่ยาก แถมยังได้รสชาติที่อร่อยเหมือนต้นตำหรับอีกด้วยนะ ถ้าหากใครอยากจะลิ้มลองรสชาติของ ลาบหมู กันแล้ว ต้องลองนำสูตรและวิธีการทำเหล่านี้ไปลองทำตามกันดูได้เลย

ทานพริกลาบเหนือ อย่างไรให้ดีต่อสุขภาพ

ลาบ เหนือ

สำหรับใครที่เป็นสายสุขภาพแต่อยากลองทานเมนู อาหารเหนือ ที่ให้พลังงานสูงและเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เชื่อว่า สูตรอาหารไทย อย่างการทำ ลาบเหนือ ที่เรานำมาแบ่งปันให้กับทุกคนกันในวันนี้ น่าจะเป็นประโยชน์ที่ดีให้กับทุกคนได้ไม่มากก็น้อยเลยทีเดียว เพราะด้วยปริมาณแคลอรี่ของเมนูอาหารนี้ก็ให้พลังงานอยู่ที่ 182 แคลอรี่เท่านั้น แถมเมื่อทานเข้าไปแล้วยังอิ่มท้องได้นานอีกด้วย เมนูนี้จึงเป็นอีกหนึ่งเมนูที่เราอยากแนะนำให้ทุกคนได้ลองไปทำทานที่บ้านกันดู

อ่านบทความอื่นๆ: