หลน อาหารไทยโบราณ เมนูชาววัง รสชาติอร่อยกลมกล่อม

หลน อาหารไทยพื้นบ้านที่มีมาอย่างช้านาน ซึ่งในอดีตนั้น หลน จะเป็นอาหารที่นิยมนำเอามาเป็นเครื่องจิ้มหรือเครื่องเคียงในสมัยโบราณเหมือนพวกน้ำพริกต่างๆ และตัวพระเอกที่จะมาชูความเป็นหลนได้เป็นอย่างดีนั่นก็คือ กะทิ แล้วนำไปเคี่ยวกับ พวกหัวหอม หมู หรือกุ้ง โดยในปัจจุบันหลนก็ได้มีการดัดแปลงจนมีสูตรการทำ หลน ในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นกะปิหลน หลนปู หลนเต้าเจี้ยว ซึ่งก็จะเปลี่ยนไปตามความชอบของคนทำอาหารนั่นเอง และเช่นเคยในวันนี้เราก็จะมีสูตรอาหารมาฝากเพื่อนๆกัน ซึ่งในวันนี้ก็เกี่ยวกับ หลน อย่างแน่นอน

เมนูปลาร้า หลน กลิ่นหอมยั่วยวนชวนหิว
และสำหรับเมนู หลน ในวันนี้เราจะมานำเสนอ ปลาร้าหลน หรือเรียกตามชาวภาคอีสานว่า หลนปลาแดก ซึ่งหลายคนคงคุ้นเคยและได้ยินชื่อมาบ้างแล้ว โดยที่ปลาร้าเป็นของขึ้นชื่อทางภาคอีสานและนำมาทำเป็นน้ำพริกหรือเครื่องจิ้มเป็นอะไรที่ยั่วน้ำลายที่สุด แต่หลายๆคนคงจะไม่ชอบกลิ่นปลาร้าสักเท่าไหร่ จนทำให้ไม่อยากลองจนพลาดของ เครื่องจิ้ม ที่แสนอร่อย แต่ต้องบอกก่อนเลยว่าสำหรับสูตร หลนปลาร้า ที่เรานำมาฝากกันนั้น ทั้งหอมและอร่อย ทำงานแถมไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นเลย แล้วทำยังไงกันนะ?! ถ้าหากเพื่อนๆพร้อมแล้วก็เตรียมส่วนผสมให้เรียบร้อยและก็เข้าครัวลงมือกันเถอะ
วัตถุดิบสำหรับการทำหลนปลาร้า
- ปลาร้า (ปลากระดี่) ½ กิโลกรัม
- กะทิ 500 มิลลิลิตร
- หมูสับ 3 ขีด
- พริกเขียว พริกแดง 10-12 เม็ด
- ตะไคร้ 3 ต้น
- กระชาย 1 ขีด
- หอมแดงซอย 10 หัว
- ใบมะกรูด มะเขือเปราะ หน่อไม้ ถั่วฝักยาว
- พริกชี้ฟ้า
- ปลาดุก หั่นแว่น 4 แว่น

วิธีทำ หลน ปลาร้า
ขั้นตอนแรก เอาปลาร้ามาล้างให้สะอาดแล้วพักไว้ หลังจากนั้นแบ่งกะทิในอัตราส่วน 250 มิลลิลิตราเอามาตั้งไฟใส่ปลาร้าที่ล้างแล้วเคี่ยวไปเรื่อยๆจนนำกะทิปลาร้ามีกลิ่นหอมและเนียน พอเดือดแล้วก็เบาไฟ แล้วก็กรองเอาแต่น้ำกะทิปลาร้า
ขั้นตอนที่สอง น้ำนำกะทิปลาร้าจากขั้นตอนแรกมาเติมกะทิที่เหลืออยู่ 250 มิลลิลิตร ต้มให้พอเดือด แล้วจึงใส่ปลาดุกที่เตรียมไว้ลงไป ในขั้นตอนนี้ห้ามคนเด็ดขาดไม่อย่างงั้นหลนจะเหม็นคาว ในขั้นตอนนี้อาจจะเพิ่มเนื้อโดยใส่เนื้อหมูหรือกุ้งแห้งตามสะดวกเลย
ขั้นตอนที่สาม ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตามปี๊บ น้ำมะขามเปียก ให้ได้สามรสแล้วปล่อยให้มันเดือดอีกรอบนึง
ขั้นตอนที่สี่ หลังจากนั้นนำหอมแดง กระชาย ตะไคร้ ข่าอ่อน ใบมะกรูด พริกขี้หนู นำมาตำหรือมาปั่นให้พอหยาบๆตามสะดวกแล้วนำใส่ลงไปในหม้อ แต่ถ้าหากใครชอบรสชาติที่เป็ดร้อนก็อาจจะเติมความแซ่บด้วยการปั่นพริกขี้หนูเพิ่มเข้าไปอีกก็ได้
ขั้นตอนที่ห้า รอให้หลนปลาร้าของเราเดือดอีกครั้งนึง แล้วก็ใส่มะเขือเปราะ หน่อไม้ ถั่วฝักยาว พริกชี้ฟ้าเพิ่มสีสันให้ได้กิน และใบมะกรูดหั่นฝอย ลงไป
ขั้นตอนที่หก เมื่อเนื้อปลาและผักสุกทั่วกันแล้ว ก็ปิดไฟแล้วบีบมะนาวลงไปช่วยเพิ่มกลิ่นหอมได้อย่างลงตัว
ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยสำหรับ หลน ปลาร้า เครื่องจิ้มกลิ่นหอมยั่วยวนที่น่ารับประทานของเรา เพื่อนๆก็สามารถจัดจานเป็นเครื่องเคียงด้วยผักสดอื่นๆได้ ตามชอบเลย เช่น ผักกาดขาว ถั่วฝักยาว แตงกวา สายบัว กะหล่ำปลีหรือผักสดชนิดอื่นๆ ตามชอบ แถมยิ่งกินคู่กับข้าวสวยร้อนๆต้องบอกเลยว่ามันเป็นรสชาติที่ทำให้เราได้ฟินที่สุดเลย

เมนูโบราณ วัฒนธรรมที่ควรค่าแก่การรักษาไว้
เป็นยังไงกันบ้างสำหรับสูตร หลน ปลาร้าที่เรานำมาฝากกันไหนวันนี้ ไม่ยากอย่างที่คิดเลยใช่ไหม ถึงแม้ว่าสูตรที่นำมาจะไม่ใช่สูตร หลนปลาร้าชาววัง ก็ตามแต่ก็เชื่อว่าน่าจะถูกใจคนชอบปลาร้าหลายๆคนแน่นอน เพราะอัดแน่นไปด้วยกลิ่นขงกะทิที่เคี่ยวกับปลาร้าหอมได้อย่างลงตัว และในปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมการกินนั้นมันทำให้อาหารชนิดนี้หรือเครื่องจิ้มตัวนี้ได้จางหายไป หากเราไม่อยากให้มันเป็น ปลาร้าหลน ประวัติ ศาตร์ที่ได้แค่จารึกไว้ เราก็ต้องสานต่อวัฒนธรรมและให้คุณค่าของอาหารฉบับชาววังที่มีมาช้านานตั้งแต่โบราณไว้ด้วย