ในบรรดาขนมหวานไทยทั้งหลายมักจะมีกะทิเป็นส่วนประกอบหลัก ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของขนมไทยเลยก็ว่าได้ เนื่องจากะทิเป็นวัตถุดิบที่จะช่วยให้ขนมมีรสชาติหวานมัน แถมมีกลิ่นหอมชวนทานอีกด้วย และถ้าหากกล่าวถึงเมนูของหวานที่มีน้ำกะทิแล้ว เราจะไม่เอ่ยถึงขนมยอดฮิตอย่าง ทับทิมกรอบ ก็คงไม่ได้ เชื่อว่าหลายคนรู้จักของหวานชนิดนี้เป็นอย่างดี ใครอยากได้สูตรการทำแบบโบราณมาติดตามกันเลย
รู้จัก ทับทิมกรอบ เมนูของหวานหน้าตาน่าทาน อยู่มาอย่างยาวนานและยังได้รับความนิยม

ขนมทับทิมกรอบ เป็นขนมที่ได้รับอิทธิพลมาจากอาหารเวียดนาม ตามข้อมูล ประวัติทับทิมกรอบ จะกล่าวไว้ว่าชนชั้นเจ้านายอย่าง พระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดา ได้สูตรมาจากยายญวน โดย ทับทิม กรอบ จะประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ๆ คือ ตัวขนม น้ำเชื่อมและน้ำกะทิ ถือเป็น ขนมหวาน ไทย ที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน
เผยสูตร ทับทิมกรอบ โบราณ ทำทานเองได้ง่าย ๆ ในสไตล์ดั้งเดิม

ขนมไทย โบราณหลายเมนูจะนิยมใช้แป้งชนิดต่าง ๆ เป็นส่วนผสมหลัก พร้อมกับกะทิคั้นสดที่ให้กลิ่นรสแบบธรรมชาติ เช่นเดียวกับ ทับทิมกรอบถือเป็นอีกหนึ่งเมนูที่มีทั้งแป้งและกะทิ ช่วยให้รสหวานมันและมีกลิ่นหอม หลายคนที่ไม่เคยทำอาจสงสัยว่า ทับทิมกรอบใช้แป้งอะไร ต้องบอกว่าเมนูนี้จะใช้เพียงแป้งมันเท่านั้น หากใครสนใจวิธีทำ วันนี้ขอแนะนำ ทับทิมกรอบสูตรโบราณ ทำเองได้ง่าย ๆ
วัตถุดิบและส่วนผสม
- แห้วดิบ 500 กรัม
- แป้งมัน 1 ถ้วยตวง
- สีฝาง
ส่วนผสมน้ำเชื่อมลอยดอกไม้
- น้ำลอยดอกมะลิ 1 ถ้วยตวง
- น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
ส่วนผสมน้ำกะทิ
- หัวกะทิ (คั้นสดจากมะพร้าวขูดขาวโดยไม่ใส่น้ำ) 1 ถ้วยตวง
- เกลือสมุทร 1/3 ช้อนชา
- ใบเตย 1 มัด
- น้ำเชื่อมลอยดอกไม้ 3/4 ถ้วยตวง
วิธีการทำขนมทับทิมกรอบ

- ขั้นตอนแรกเตรียมทำน้ำเชื่อมลอยดอกไม้ เริ่มจากใส่น้ำลอยดอกมะลิและน้ำตาลทรายลงในหม้อ ต้มด้วยไฟกลางจนน้ำตาลละลาย เสร็จแล้วปิดเตาและพักไว้ให้เย็น
- ขั้นตอนต่อมาเตรียมทำน้ำกะทิ ใส่หัวกะทิ เกลือสมุทร และใบเตยมัดลงในหม้อ จากนั้นนำไปต้มด้วยไฟอ่อน ในระหว่างนี้หมั่นคนอยู่เรื่อย ๆ จนกะทิเริ่มร้อน ต่อมาใส่น้ำเชื่อมลอยดอกไม้และคนให้เข้ากัน เสร็จแล้วรอน้ำกะทิร้อนขึ้นอีกหน่อยแล้วค่อยปิดเตา หลังจากนั้นพักน้ำกะทิให้เย็นลงแล้วนำไปอบควันเทียนจนมีกลิ่นหอม
- เตรียมทำตัวทับทิมกรอบ เริ่มจากนำแห้วมาล้างน้ำให้สะอาด และปอกเปลือกออกให้เรียบร้อย เสร็จแล้วนำไปล้างน้ำอีกครั้ง และหั่นเป็นสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก เตรียมไว้
- ต้มน้ำด้วยไฟแรง เมื่อน้ำเดือดแล้วให้นำแห้วลงไปลวกจนสุก และนำไปแช่ในน้ำเย็นจัด จากนั้นตักขึ้นใส่ตะแกรงพักไว้ให้สะเด็ดน้ำพอหมาด ๆ
- ขั้นตอนการเติมสี เตรียมภาชนะสำหรับผสม ใส่แห้วลงไป ตามด้วยสีฝางเข้มข้น คลุกเคล้าผสมกันจนทั่ว เสร็จแล้วพักไว้ประมาณ 10 นาที
- เตรียมภาชนะ ใส่แป้งมันลงไป ตามด้วยแห้วที่ผสมสีแล้วประมาณ 1/3 ส่วน จากนั้นคลุกเคล้าให้แป้งมันเคลือบตัวแห้วทั้งหมด และเทลงในกระชอน ทำการร่อนแป้งมันส่วนเกินออกให้หมด เสร็จแล้วเทใส่ถาดพักไว้
- เตรียมลวกทับทิมกรอบ เริ่มจากต้มน้ำด้วยไฟกลางค่อนแรง ในระหว่างนี้ให้เตรียมน้ำเย็นจัดไว้ 1 ถ้วย และน้ำเชื่อมลอยดอกไม้ 1 ถ้วย เมื่อน้ำเดือดจัดแล้ว นำทับทิมกรอบที่เตรียมไว้ลงไปลวกจนสุก
- เมื่อต้มทับทิมกรอบสุกใสได้ที่แล้ว จะเห็นมันลอยขึ้นมาบนน้ำ ให้ใช้กระชอนตักออกมาแช่ไว้ในน้ำเย็นจัด
- เมื่อแช่ในน้ำเย็นจัดจนทับทิมกรอบเย็นลงแล้ว ให้ตักมาใส่ในถ้วยน้ำเชื่อมลอยดอกไม้ที่เตรียมไว้ แช่ไว้สักครู่เพื่อให้ทับทิมกรอบอิ่มตัวและดูใสขึ้น
- ขั้นตอนการเสิร์ฟ ตักทับทิมกรอบใส่ถ้วยแล้วราดน้ำกะทิลงไป จากนั้นใส่น้ำแข็งเพื่อความเย็นสดชื่น เพียงเท่านี้ถือเป็นอันเสร็จพร้อมทาน
เทคนิคการสกัดสีฝางเพื่อใช้ทำเมนู ทับทิมกรอบ สูตรโบราณ เพิ่มสีสันเองแบบธรรมชาติ

ในปัจจุบันต้องบอกว่า ขนมไทยทำง่าย ขึ้นมาก เนื่องจากมีวัตถุดิบและส่วนผสมต่าง ๆ ที่สามารถนำมาดัดแปลงหรือใช้ทดแทนกันได้ และจะเห็นว่า ทับทิมกรอบ5สี จะนิยมใช้สีผสมอาหารกันอยู่ไม่น้อย แต่หากใครอยากได้สีแดงธรรมชาติ ทับทิมกรอบแบบสูตรดั้งเดิมสามารถนำฝางมาแช่น้ำให้ออกสี และนำไปเคี่ยวเพื่อสกัดสีให้มีความเข้มข้นมากขึ้น เพียงเท่านี้ก็จะได้สีแดงอมชมพูมาใช้ย้อมแห้วแล้ว
ทับทิมกรอบสูตรโบราณ หน้าตาน่าทาน สุขสำราญด้วยรสชาติหอมหวานแบบไทย ๆ

เป็นอย่างไรกันบ้างกับวิธีการทำทับทิมกรอบ สูตรโบราณ หวังว่าทุกคนจะสามารถนำสูตรดังกล่าวไปประยุกต์ใช้ได้ตามความสะดวก สำหรับ วิธีทําทับทิมกรอบ มันแกว ก็จะทำในลักษณะเดียวกัน เพียงแค่เปลี่ยนจากแห้วเป็นมันแกว ต้องบอกว่าขนมชนิดนี้เป็น เมนูของหวานไทยง่าย ๆ ทำได้ไม่ยาก เพียงแค่หาวัตถุดิบและส่วนผสมให้ครบก็สามารถทำทานเองได้แล้ว
อ่านบทความอื่นๆ: