เมื่อได้ยินคำว่า “ถังแตก” หลายคนอาจคิดว่าเป็นคำที่ไม่มงคลนัก เพราะมีความหมายว่าหมดตัว ซึ่งคำดังกล่าวถูกนำมาเรียกขนมไทยชนิดหนึ่ง นั่นก็คือ ขนม ถัง แตก และภายหลังถูกเปลี่ยนชื่อเป็นถังทองหรือถังเงินนั่นเอง ขนมชนิดนี้เป็นที่รู้จักอยู่พอสมควร แม้ว่าจะเป็นหนึ่งในขนมโบราณ แต่ในปัจจุบันก็ยังคงหาทานได้อยู่ โดยคำว่า “ถังแตก” นั้นได้มาจากการที่พ่อค้าชาวจีนหาบขนมชนิดนี้ไปขายตามสนามมวยหรือสนามม้าในราคาไม่แพง และกลุ่มคนที่เล่นการพนันจนเสียเงินก็มักจะซื้อขนมนี้ไปทานแก้หิว จึงเป็นที่มาของขนมถังแตก
แนะนำ ขนม ถัง แตก ขนมไทยโบราณหน้าตาน่าทาน ผสมผสานความหอมหวานอย่างลงตัว

ถังแตก เป็นขนมไทยที่มีแผ่นแป้งนุ่ม ๆ ด้านในห่อด้วยไส้มะพร้าวและฝอยทอง ด้วยความที่ชื่อของขนมนั้นฟังดูไม่ค่อยมงคล ภายหลังจึงมีการตั้งชื่อให้ใหม่ หากมีไส้มะพร้าวจะเรียกว่า “ขนมถังเงิน” และถ้ามีไส้ฝอยทองจะเรียกว่า “ขนมถังทอง” ทั้งนี้ขนม ถังแตกโบราณ จะพบไส้มะพร้าวมากกว่า ซึ่งจะมีการโรยน้ำตาลทราย เกลือและเมล็ดงาด้วย อย่างไรก็ตามในปัจจุบัน ขนมถังแตก ได้ถูกดัดแปลงและสร้างสรรค์ให้มีหลากหลายไส้มากขึ้น และยังหาทานได้ง่ายด้วย
แจกสูตร ขนม ถัง แตก ไส้มะพร้าวและงาคั่ว แป้งนุ่มละมุนลิ้น รสชาติหวานกำลังดี

ในปัจจุบันขนม ถังแตก ยังสามารถหาได้ทานอยู่ทั่วไป โดยลักษณะของขนมชนิดนี้จะคล้ายกับเครปที่มีไส้อยู่ด้านใน จึงมีการดัดแปลงให้มีไส้ที่หลากหลายมากขึ้น จากเดิมที่มีเพียงแค่ไส้มะพร้าว แต่ในภายหลังจะมีหลากหลายไส้มากขึ้น อาทิ ฝอยทอง ข้าวโพด และใบเตย อย่างไรก็ตามวันนี้เราขอแนะนำ สูตรขนมถังแตก โบราณตามแบบฉบับดั้งเดิม มาพร้อมกับไส้มะพร้าวขูด โรยด้วยน้ำตาลทราย เกลือและงาคั่ว หากใครที่อยากลองทำ ขนมถังแตก ทานเอง มาดูกันเลยว่าจะต้องเตรียมอะไรบ้าง
วัตถุดิบและส่วนผสม
- แป้งข้าวเจ้า 500 กรัม
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 175 กรัม
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- หัวกะทิ 250 กรัม
- น้ำตาลทรายขาว 200 กรัม
- ผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ
- ยีสต์แห้ง 1 ช้อนชา
- เกลือ 1 ช้อนชา
- กลิ่นวานิลลา 2 ช้อนชา
- น้ำเปล่า 500 กรัม

ส่วนผสมไส้ขนมถังแตก
- มะพร้าวทึนทึก 4-5 ลูก
- งาขาว 50 กรัม
- งาดำ 50 กรัม
- น้ำตาลทรายขาว 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1 หยิบมือ
วิธีการทำขนมถังแตก

- เตรียมชามผสม ใส่แป้งข้าวเจ้าลงไป ตามด้วยแป้งสาลีอเนกประสงค์ น้ำตาลทราย เกลือ ผงฟูและยีสต์แห้ง คนให้ส่วนผสมเข้ากัน จากนั้นทยอยใส่น้ำเปล่าลงไปทีละน้อย ๆ และคนให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันอีกครั้ง
- เมื่อคนส่วนผสมเข้ากันดีแล้ว ตีไข่ให้แตกแล้วเทผสมลงไป ตามด้วยกลิ่นวานิลลา คนให้ส่วนผสมเข้ากันอีกครั้ง
- เทกะทิลงไป ใช้ตะกร้อมือคนให้ส่วนผสมเข้ากันจนข้นหนืด พักแป้งไว้ประมาณ 3 ชั่วโมง โดยต้องใช้ฝาหรือพลาสติกแรปปิดไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ลมเข้า
- เตรียมส่วนผสมของไส้ขนมถังแตก ผ่ามะพร้าวและขูดเอาเนื้อมะพร้าวใส่ภาชนะ เติมเกลือลงไปเล็กน้อย ใช้มือขยำคลุกเคล้าให้เข้ากัน นำไปนึ่งให้สุกประมาณ 5-10 นาที เสร็จแล้วนำออกมาผึ่งเพื่อคลายความร้อน
- นำงาขาวและงาดำมาล้างน้ำและสะเด็ดน้ำให้เรียบร้อย แล้วนำมาคั่วด้วยไฟกลางค่อนอ่อน คั่วจนสุกและมีกลิ่นหอมแล้วปิดไฟได้เลย นำไปบดในครกให้พอแตก เพื่อให้มีกลิ่นหอม จากนั้นผสมกับน้ำตาลทรายขาว
- นำแป้งที่พักไว้ 3 ชั่วโมง มาทำขนมถังแตก เริ่มจากตั้งกระทะ ใช้กระทะเคลือบ ตักแป้งหยอดลงไปที่บริเวณขอบกระทะก่อนเพื่อให้แป้งไหลลง จากนั้นหยอดแป้งลงบริเวณกลางกระทะ ปิดฝาอบไว้สักระยะให้แป้งสุกดี
- ใส่มะพร้าวขูดลงไป ตามด้วยงาคั่วและน้ำตาลทรายที่ผสมไว้ เสร็จแล้วพับแป้งเข้าหากันแล้วนำออกจากกระทะ วางขนมไว้บนภาชนะหรือตะแกรง หลังจากนั้นทำในลักษณะเดียวกันจนกว่าแป้งที่เตรียมไว้จะหมด
เคล็ดลับทำขนม ถัง แตก ให้หอมทั้งแป้งและไส้ เนื้อสัมผัสที่ใช่และลงตัว เก็บไว้ได้นาน

สิ่งสำคัญที่จะทำให้ ขนมถังแตก มีกลิ่นหอมทั้งแป้งและไส้ นั่นก็คือกลิ่นวานิลลาและไส้มะพร้าวที่มาพร้อมกับงาคั่ว จะเห็นได้ว่าสูตรที่เราแนะนำไปนั้นจะเติมกลิ่นวานิลลาผสมกับแป้ง ส่วนไส้มะพร้าวจะมีการผสมงาคั่ว ซึ่งมีการนำงาคั่วไปบดในครกเพื่อให้ส่งกลิ่นหอมออกมาได้มากขึ้น นอกจากนี้ วิธี ทำ ขนมถังแตก ให้สามารถเก็บไว้ได้นาน เราแนะนำให้ใช้กะทิสำเร็จรูปแทนกะทิสด และในส่วนของไส้มะพร้าว การนำมะพร้าวขูดไปนึ่งจนสุกจะช่วยให้ ขนมถังแตก อยู่ได้นาน ไม่บูดง่าย
ขนมหวานไทยขึ้นชื่อ ขนมถังแตก แป้งนุ่มละมุน เคี้ยวเพลิน ทำทานได้ง่าย

ต้องบอกว่า ขนมถังแตก เป็นขนมโบราณชนิดหนึ่งที่สามารถทำทานได้ไม่ยากนัก ยิ่งในปัจจุบันอุปกรณ์เครื่องครัวมีความทันสมัยมากขึ้น ทำให้เราสะดวกสบายและสามารถทำขนมหรือเมนูอาหารต่าง ๆ ด้วยตัวเองได้ง่ายขึ้น หากใครคิดถึง ขนม ถังแตกโบราณ และอยากจะลองทำทานเองสักครั้ง สูตรที่เรานำมาฝากนั้นทำตามได้ไม่ยากเลย หวังว่าทุกคนจะสามารถนำไปประยุกต์ใช้ที่บ้านได้ และสำหรับใครที่อยากทำ ขนม ถังแตก ขาย สามารถนำสูตรดังกล่าวไปดัดแปลงตามความสะดวกได้เลย
อ่านบทความอื่นๆ: