เมื่อนึกถึงเมนูของหวานราดน้ำกะทิแล้ว นอกจากลอดช่องไทย เชื่อว่าหลายคนต้องรู้จักหรือเคยได้ยินคำว่า ลอดช่องสิงคโปร์ กันมาบ้างแล้ว เพราะถือเป็นของหวานอีกหนึ่งเมนูที่มีหน้าตาน่าทาน รสชาติหวานหอม กลมกล่อม ทานแล้วสดชื่น เรียกได้ว่าเป็นเมนูของทานเล่นหรืออาหารว่างที่ต้องลองสักครั้ง รับรองว่าคนที่ชอบทานอาหารหวานจะต้องถูกใจอย่างแน่นอน สำหรับใครที่อยากลองทำเมนูนี้ เราก็มีสูตรการทำมาแบ่งปันกันด้วย

จุดกำเนิดของ ลอดช่องสิงคโปร์ ที่หลายคนอาจยังไม่รู้

เชื่อว่ายังมีหลายคนที่เข้าใจผิดว่า ลอดช่องสิงคโปร์โบราณ เป็นเมนูของหวานที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศสิงคโปร์ แต่ในความเป็นจริงแล้วเมนูของหวานอย่างลอดช่องสิงคโปร์ ถูกคิดค้นและเปิดขายที่แรกในประเทศไทย โดยร้านนั้นมีชื่อว่า “สิงคโปร์ โภชนา” อยู่แถวโรงหนังสิงคโปร์ในอดีต จึงเป็นที่มาของชื่อ ขนมหวาน ที่เรียกกันนั่นเอง โดยตัวร้านจะตั้งอยู่ที่ถนนเจริญกรุง กรุงเทพ ฯ เปิดมานานกว่า 70 ปีแล้ว สรุปสั้น ๆ ได้ว่าเมนูขนมหวานนี้เป็นของหวานสัญชาติไทย 

แจกสูตร ลอดช่องสิงคโปร์ แบบไม่กั๊ก ทำตามแล้วอร่อยไม่แพ้ต้นฉบับอย่างแน่นอน

สำหรับใครที่ชอบทานอะไรหวาน ๆ เป็นพิเศษ วันนี้เราอยากจะขอนำเสนอ สูตรลอดช่องสิงคโปร์ ทำได้ง่าย ๆ ใครทำก็อร่อย บอกเลยว่าเมนูนี้เป็นเมนูที่ขึ้นชื่อมาก ๆ เชื่อว่ายังมีหลายคนที่เคยทานเพียงแค่ลอดช่องของไทย และคิดว่า ลอดช่อง สิงคโปร์ น่าจะมีรสชาติไม่ต่างกัน ต้องบอกว่าทั้งสองสูตรมีความคล้ายกัน แต่จริง ๆ แล้วองค์ประกอบต่าง ๆ จะไม่เหมือนกันซะทีเดียว เพราะใช้แป้งคนละชนิดนั่นเอง เอาล่ะถึงเวลาที่เราต้องไปดูส่วนผสมและวิธีทำกันแล้ว 

วัตถุดิบและส่วนผสม

ส่วนผสมเส้นลอดช่องสีชมพู

1. แป้งมันสำปะหลัง 200 กรัม
2. น้ำเดือดจัด 1/2 ถ้วยตวง
3. สีผสมอาหารสีชมพู (ตามความชอบ)

ส่วนผสมเส้นลอดช่องสีเขียว

1. แป้งมันสำปะหลัง 200 กรัม
2. น้ำเดือดจัด 1/2 ถ้วยตวง
3. สีผสมอาหารสีเขียว (ตามความชอบ)

ส่วนผสมน้ำกะทิ

1. หัวกะทิ 1,300 กรัม
2. เกลือป่น 1 ช้อนชา
3. เนื้อขนุนฉีก 1+1/2 ถ้วยตวง

ส่วนผสมน้ำเชื่อม

1. น้ำเปล่า 1,000 กรัม
2. น้ำตาลทราย 1,000 กรัม
3. กลิ่นนมแมว 4-5 หยด 

วิธีการทำ

1. ขั้นตอนแรกเตรียมทำเส้นลอดช่อง โดยเริ่มจากเส้นลอดช่องสีชมพูก่อน ใส่สีผสมอาหารสีชมพูลงในถ้วยผสม จากนั้นตักน้ำเดือดจัดใส่ลงไปผสมกัน
2. เทแป้งมันลงในถ้วยผสมแล้วทำหลุมตรงกลาง จากนั้นเทน้ำที่ผสมกับสีผสมอาหารสีชมพูลงไป ใช้แป้งด้านข้างกลบไว้ประมาณ 10 วินาที และใช้มือคุ้ยให้ทั่วแล้วนวดแป้งให้เป็นเนื้อเดียวกัน
3. เมื่อนวดจนเนื้อแป้งเนียนแล้วให้ใช้ไม้คลึง รีดให้แป้งเป็นแผ่นบาง ๆ ตัดแบ่งครึ่งแล้วหั่นเป็นเส้นเล็ก ๆ เสร็จแล้วใส่ถ้วย พักไว้ ต่อมาให้ทำแป้งลอดช่องสีเขียวต่อ โดยให้ทำในลักษณะเดียวกัน เพียงแต่ใช้สีผสมอาหารสีเขียว
4. นำเส้นทั้งสองสีที่ได้ลงไปต้มในน้ำเดือด คนเล็กน้อยแล้วต้มไปเรื่อย ๆ จนกว่าเส้นจะสุกและลอยตัวขึ้นมา จากนั้นต้มต่ออีก 5 นาที
5. เมื่อเส้นสุกดีแล้วให้ตักขึ้นแล้วนำไปน็อคกับน้ำเย็น เสร็จแล้วสะเด็ดน้ำและเทใส่ในถ้วย พักไว้ เตรียมต้มกะทิ ตั้งหม้อแล้วเทกะทิและเกลือลงไป ใช้ไฟกลางค่อนไปทางอ่อน คนให้เกลือละลาย 
6. เมื่อกะทิร้อนจนมีไอขึ้นแล้วให้ตักเส้นลอดช่องที่พักไว้ใส่ลงไป จากนั้นคนแล้วต้มต่ออีก 3 นาที เสร็จแล้วยกหม้อลงพักไว้
7. เตรียมทำน้ำเชื่อม ตั้งหม้อแล้วใส่น้ำเปล่าและน้ำตาลทรายลงไป จากนั้นคนเล็กน้อย รอให้น้ำตาลละลาย เมื่อน้ำเชื่อมเดือดแล้วให้หยดกลิ่นนมแมวลงไปเล็กน้อย เสร็จแล้วคนเล็กน้อยและปิดแก๊ส
8. นำเนื้อขนุนฉีกใส่ลงไปในน้ำกะทิลอดช่อง คนให้เข้ากัน เสร็จแล้วตักลอดช่องใส่ในแก้ว ตามด้วยน้ำเชื่อม และน้ำแข็ง ถือเป็นอันเสร็จพร้อมทาน 

เคล็ดลับการทำ ลอดช่องสิงคโปร์ ให้เส้นเหนียวหนึบ ไม่อืด รสสัมผัสดีเหมือนไปทานที่ร้าน

หากใครเคยทานลอดช่องจะรู้ดีว่าถ้าเส้นแป้งอืดแล้วจะไม่ค่อยอร่อย สำหรับใครที่สงสัยว่า ลอดช่องสิงคโปร์แป้งสดลอดช่องสิงคโปร์ใช้แป้งอะไร เราก็ได้บอกไปแล้วว่าใช้แป้งมัน หรือแป้งมันสำปะหลัง ส่วนเคล็ดลับที่ทำให้เส้นเหนียวหนึบและไม่อืด ในขั้นตอนการนวดแป้งควรใช้น้ำเดือดจัดมาผสม จะช่วยให้แป้งเกาะตัวเป็นก้อนเร็วขึ้น และเหนียวหนึบนาน เมื่อต้มแป้งจนสุกแล้วให้รีบน็อคด้วยน้ำเย็นทันที นอกจากนี้ถ้าผสมลอดช่องสิงคโปร์ กับน้ำเชื่อมตอนพักไว้จะช่วยให้เส้นไม่อืดอีกด้วย

อธิบายให้กระจ่าง ลอดช่องไทยกับลอดช่องสิงคโปร์ ต่างกันอย่างไร

หลายคนอาจเข้าใจว่าลอดช่องสิงคโปร์มีจุดกำเนิดมาจากประเทศสิงคโปร์ แต่จริง ๆ แล้ว ของหวาน ดังกล่าวมีจุดกำเนิดในประเทศไทย เรียกได้ว่าเป็นของหวานสัญชาติไทยอีกหนึ่งเมนูที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่งต่างจากลอดช่องไทยที่ใช้แป้งข้าวเจ้าเป็นหลัก สำหรับลอดช่องสิงคโปร์จะใช้แป้งมันสำปะหลัง และมีกรรมวิธีการทำเส้นแป้งที่ต่างจากลอดช่องไทย นอกจากนี้ยังมีการแยกน้ำกะทิออกจากน้ำเชื่อมเป็น 2 หม้อด้วย ซึ่งจะใช้น้ำกะทิและน้ำตาลทราย ในขณะที่ลอดช่องไทยจะนำน้ำกะทิมาเคี่ยวกับน้ำตาลปี๊บ

แนะนำวิธีทานลอดช่อง ให้อร่อยฟิน เหมือนไปเยือนถิ่นต้นตำรับ

ลอดช่อง สิงคโปร์ เป็นเมนูของหวานที่นิยมทานคู่กับขนุนและน้ำแข็ง ซึ่งถือเป็นเมนูที่เหมาะกับหน้าร้อนมาก ๆ นอกจากรสชาติจะอร่อยแล้ว ความหวานของน้ำเชื่อมและความเย็นจากน้ำแข็งจะช่วยทำให้เราสดชื่นอีกด้วย และถ้าหากใครอยากจะทานให้อร่อยและได้อรรถรสมากขึ้น แนะนำให้ทานร่วมกับอย่างอื่น ไม่ว่าจะเป็นทับทิมกรอบ หรือซ่าหริ่ม ซึ่งจะเรียกว่า ลอดช่องสิงคโปร์รวมมิตร นั่นเอง 

อ่านบทความอื่นๆ:

• ลอดช่องน้ำกะทิ ขนมไทยแท้โบราณ หอมกะทิ หวานน้ำตาล

สนับสนุนโดย: hilo-88.net