หากกล่าวถึงขนมโบราณของไทยที่สามารถทำทานเองได้ง่าย ๆ ใช้วัตถุดิบไม่มาก หนึ่งในนั้นอยากจะแนะนำ ปลากริมไข่เต่า เนื่องจากเป็นขนมไทยที่ใช้วัตถุดิบค่อนข้างน้อย และวิธีทำก็ไม่ค่อยยุ่งยากด้วย สำหรับใครที่ชื่นชอบการทานขนมไทยเป็นพิเศษ ขอแนะนำเมนูนี้เลย บางคนอาจจะรู้สึกว่าเป็นเมนูที่หากินได้ค่อนข้างยากในปัจจุบัน แต่บอกเลยว่าหากใครอยากกินจริง ๆ ก็สามารถลงมือทำเองได้เลย เพราะขนมไทยเมนูนี้ใครทำก็อร่อยได้เช่นกัน
ที่มาของขนม ปลากริมไข่เต่า อีกหนึ่งเมนูยอดฮิตน่าลอง
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับ ปลา กริมไข่เต่า ประวัติ ต้องบอกว่าเดิมขนมปลากริมและขนมไข่เต่านั้นเป็นขนมคนละชนิดกัน ซึ่งจะเสิร์ฟแยกกัน แต่ทว่าในปัจจุบันนี้ขนมทั้งสองชนิดจะถูกนำมากินด้วยกัน หากจะกล่าวให้เข้าใจง่าย ๆ ปลากริมไข่เต่าคือ ขนมที่ปั้นแป้งให้มีลักษณะเป็นเส้นยาว ๆ และนำไปต้มกับน้ำ จากนั้นต้มน้ำตาลและกะทิแยกต่างหาก เสร็จแล้วนำมากินคู่กัน ซึ่งเป็นการนำขนมปลากริมและขนมไข่เต่ามารวมกันนั่นเอง สำหรับใครที่ชอบทาน ปลากริม ไข่เต่า วันนี้เราก็มีสูตรการทำแบบง่าย ๆ มาฝากกันด้วย
แจกสูตรการทำ ปลากริมไข่เต่า ด้วยตัวเองแบบง่าย ๆ ทำทานเองได้ที่บ้าน
อย่างที่บอกไปว่า ปลา กริมไข่เต่า เป็นเมนูขนมไทยที่ทำได้ค่อนข้างง่าย ถ้าหากใครอยากจะลองทำทานเอง วันนี้เราก็มี สูตรปลากริมไข่เต่า มานำเสนอด้วย เรียกว่าเป็นสูตรโบราณที่ใคร ๆ ก็สามารถทำได้ สำหรับใครที่อยู่บ้านว่าง ๆ แล้วรู้สึกเบื่อ ๆ อยากกินของอร่อย ๆ แนะนำให้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์โดยการหันมาทำ ขนมปลากริมไข่เต่า หากพร้อมแล้วก็ตามเราไปดูวัตถุดิบและส่วนผสม รวมถึงวิธีทำกันเลย จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น มาดูกัน
วัตถุดิบและส่วนผสม
- แป้งข้าวเจ้า 180 กรัม
- แป้งมัน 120 กรัม
- น้ำเปล่า 400 กรัม
- กะทิ 400 กรัม
- น้ำตาลมะพร้าว 350 กรัม
- น้ำตาลทราย 90 กรัม
- เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำร้อนสำหรับนวดแป้ง
- ใบเตย 2-3 ใบ
วิธีการทำ ปลากิมไข่เต่า
- ขั้นตอนแรกเตรียมถ้วยผสมและตะแกรงร่อนแป้ง จากนั้นใส่แป้งข้าวเจ้าและแป้งมันลงไปแล้วร่อนแป้งลงในถ้วยผสม
- ต้มน้ำให้เดือดแล้วปิดไฟสำหรับนวดแป้ง ทำหลุมตรงกลางแป้งที่ร่อนไว้แล้วตักน้ำร้อนที่ต้มไว้เมื่อสักครู่ลงไป และกลบด้วยแป้ง
- ค่อย ๆ เทน้ำลงไปแล้วนวดให้เป็นเนื้อเดียวกัน แนะนำให้โรยแป้งแห้งลงไปก่อนจะนวด เพื่อให้นวดแป้งได้ง่ายแบบไม่ติดมือ
- แบ่งแป้งเป็นชิ้น ๆ แล้วปั้นเป็นตัว จากนั้นหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ เสร็จแล้วปั้นปลากริมเป็นเส้น ๆ ใส่ชามเตรียมไว้ โรยแป้งแห้งลงไปเพื่อไม่ให้ติดกัน
- ต้มน้ำให้เดือดแล้วใส่ใบเตย ตามด้วยน้ำตาลมะพร้าว จากนั้นรอให้น้ำตาลละลายและเดือด ปิดไฟแล้วทิ้งไว้สักพัก
- ตั้งหม้อแล้วใส่หัวกะทิลงไป ตามด้วยเกลือเล็กน้อย และน้ำตาลทราย คนให้เข้ากันแล้วใส่ใบเตยลงไป ต้มให้น้ำตาลละลายและกะทิเดือด เสร็จแล้วปิดไฟ
- ตั้งหม้อแล้วใส่น้ำเปล่าลงไป เมื่อน้ำเดือดแล้วเอาปลากริมลงไปต้มให้สุก จากนั้นตักใส่หม้อกะทิและหม้อน้ำตาลมะพร้าว
- นำหม้อกะทิและหม้อน้ำตาลมะพร้าวไปต้มให้เดือดอีกครั้ง จากนั้นตักใส่ถ้วยเสิร์ฟ โดยเริ่มจากการตักปลากริมไข่เต่าจากหม้อน้ำตาลมะพร้าวลงในถ้วยไปก่อน ตามด้วยกะทิ ถือเป็นอันเสร็จ
รสชาติต้นฉบับ ปลากริมไข่เต่า ควรปรุงให้มีรสแบบไหน
ปลากริม ไข่เต่า สูตรโบราณ เป็นขนมที่มีทั้งความหวาน มัน และเค็มในเวลาเดียวกัน เพราะฉะนั้นควรปรุงให้มีรสเค็มเพื่อตัดความหวานให้ลงตัวมากขึ้น เดิมขนมปลากริมจะปั้นแป้งเป็นเส้นยาว ๆ และนำไปต้มในน้ำจนสุก จากนั้นนำไปเคี่ยวกับน้ำตาลปึก โดยจะเติมรสชาติหวานให้มีสีน้ำตาลอ่อน ๆ ซึ่งนอกจากความหวานแล้ว เมนูของหวานไทย เมนูนี้ยังมีกลิ่นหอมของน้ำอ้อยด้วย ในปัจจุบันมีการปรับเปลี่ยนวิธีการกิน โดยจะนำขนมปลากริมมารวมกันกับขนมไข่เต่า จึงกลายเป็นขนมปลากริมไข่เต่าในที่สุด
เคล็ด(ไม่)ลับการนวดและปั้นแป้งอย่างไรให้ไม่ติดมือ และขนมไม่ติดกัน
ขนม หรือ ของหวานไทย หลาย ๆ เมนู มักจะใช้แป้งเป็นส่วนผสมหลัก เช่นเดียวกับปลากริมไข่เต่า ก็ถือเป็นหนึ่งในเมนู ขนมไทยโบราณ ที่ใช้แป้งทำตัวขนม ต้องบอกว่าขั้นตอนการนวดแป้งและปั้นตัวปลากริมไข่เต่านั้นมีความสำคัญอย่างมาก เชื่อว่าปัญหาของมือใหม่ที่เพิ่งหัดทำขนมได้ไม่นาน มักจะประสบกับปัญหาแป้งติดมือในระหว่างที่นวดแป้ง หรือตัวแป้งของขนมติดกัน หากเป็นเช่นนี้แนะนำให้โรยแป้งและทาแป้งที่มือก่อนลงมือนวดแป้ง โดยแป้งที่ใช้จะต้องเป็นแป้งแห้ง
ปลากริม ไข่เต่า กินให้ถูกวิธีแล้วจะได้อรรถรสเพิ่มขึ้น
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าในอดีตจะเสิร์ฟขนมปลากริมและขนมไข่เต่าแยกกันต่างหาก จนกระทั่งในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้นำขนมปลากริมมารวมกันกับขนมไข่เต่า ทำให้ ขนมไทย ทั้งสองอย่างกลายเป็นเมนูเดียวกัน และต้องทานคู่กัน โดยจะตักส่วนผสมของน้ำตาลมะพร้าวหรือน้ำตาลปี๊บลงไปในถ้วยก่อน จากนั้นราดน้ำกะทิด้านบน หากใครที่ยังไม่เคยทานขนมชนิดนี้ และกำลังหาสูตร ขนมไทย ง่ายๆ เราขอแนะนำให้ลองเอาสูตรดังกล่าวไปใช้ได้เลย รับรองว่าอร่อยแน่นอน
อ่านบทความอื่นๆ:
สนับสนุนโดย: ufaball.bet
